หน้าเว็บ

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

"โรคมือ เท้า ปาก" โรคใหม่ ที่กำลังระบาดในเด็กไทย !!


วัสดีค่าน้องๆ... หากติดตามข่าวช่วงนี้ คงไม่มีอะไรน่าลุ้นไปกว่า "โรคมือเท้าปาก" ระบาดไปทั่ว และระบาดไวจนน่าเป็นห่วง จากเดิมที่มีจุดเริ่มต้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา แต่สถานการณ์ขณะนี้โรคนี้ได้ขยายวงกว้างไปเกือบทั้งประเทศทั้งภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ซึ่งหลายโรงเรียนได้พบนักเรียนที่ป่วยเป็นโรคนี้และสั่งปิดโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

                 พี่มิ้นท์ อยากฝากน้องๆ ชาว 
Dek-D.com ให้ดูแลและระวังตัวเองเป็นพิเศษนะคะ เพราะประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ในเขตร้อนชื้นเช่นนี้ หน้าฝนถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมกับการระบาดของเชื้อโรคมากที่สุดด้วย ซึ่งในวันนี้พี่มิ้นท์ได้นำสาระดีๆ เกี่ยวกับโรคมือเท้าปาก มาฝากน้องๆ เพื่อให้รู้และเข้าใจ รวมทั้งนำไปปฏิบัติเพื่อให้ห่างไกลจากโรคนี้กันค่ะ
เด็กดีดอทคอม :: "โรคมือ เท้า ปาก" โรคใหม่ ที่กำลังระบาดในเด็กไทย !!

                 โรคมือเท้าปาก หรือ Hand-Foot-and-Mouth Diease ในช่วงระยะหลังค่อนข้างคุ้นหูกับโรคนี้ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดในโรงเรียนอนุบาล-ประถม  เพราะเป็นโรคที่พบมากในวัยเด็กที่ต่ำกว่า 10 ขวบ (แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นได้นะคะ) เกิดจากเชื้อไวรัส  Coxsackie virus A16 หรือ Enterovirus 71 สามารถแพร่เชื้อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ง่ายมาก ผ่านการสัมผัสน้ำลาย เสมหะ หรือน้ำจากตุ่มใสของผู้ป่วย ซึ่งในแง่นี้รวมถึงการสัมผัสโดยอ้อมจากการหยิบจับสิ่งของที่ผู้ป่วยได้เคยจับมาด้วย โดยระยะที่แพร่เชื้อได้ดีที่สุด คือ ในช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าถ้าโรงเรียนใด พบนักเรียนที่ป่วยเป็นโรคนี้ ให้ปิดชั้นเรียนหรือโรงเรียนทันที!!

                  เมื่อได้รับไวรัสเข้าไปในร่างกายแล้ว ไวรัสจะแบ่งตัวที่เยื่อบุในกระพุ้งแก้มและในลำไส้เล็ก หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง มีระยะฟักตัวแค่ 3-6 วัน จนกระทั่งเชื้อไวรัสจะแพร่ไปตามกระแสเลือดไปฝังตัวตามเยื่อในช่องปาก มือและเท้า จนเกิดอาการตามชื่อของโรค
เด็กดีดอทคอม :: "โรคมือ เท้า ปาก" โรคใหม่ ที่กำลังระบาดในเด็กไทย !!

                  อาการของโรคนี้ค่อนข้างเห็นชัดเจนมาก เนื่องจากแสดงออกมาภายนอกร่างกายด้วย อาการเริ่มต้นจะคล้ายๆ กับการเป็นไข้โดยทั่วไป คือ ครั่นเนื้อครั่นตัว แต่หลังจากนั้นไม่เกิน 2 วัน จะมีแผลในช่องปาก โดยเป็นผื่นและตุ่มแดง คล้ายๆ แผลร้อนใน ต่อมาก็จะเป็นตุ่มน้ำ และหากมันแตก แผลเล็กหลายๆ แผลก็มีโอกาสรวมเป็นแผลขนาดใหญ่ด้วย ส่วนมากแผลจะเกิดขึ้นที่เพดานปาก เยื่อบุช่องปากและลิ้น นอกจากภายในปากแล้ว มือและเท้าก็จะมีผื่นอยู่ตามแขน ขาและมือด้วย ซึ่งจำนวนของรอยผื่นก็มีโอกาสที่จะเป็นเพียงนิดเดียวไปจนถึงมีมากเป็นร้อยๆ จุด แต่ผื่นและตุ่มเหล่านี้
 จะตกสะเก็ดและหายไปเองได้ภายใน 7-10 วันค่ะ
เด็กดีดอทคอม :: "โรคมือ เท้า ปาก" โรคใหม่ ที่กำลังระบาดในเด็กไทย !!

                    ถามหาการรักษาโรคมือเท้าปาก ขอบอกว่าไม่มีค่ะ!! ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคนี้โดยตรง แต่คุณหมอจะแยกรักษาตามอาการที่เราป่วย เช่น ถ้ามีไข้ก็จะให้ยาลดไข้ ถ้าเจ็บปากก็จะให้ดิ่มน้ำเยอะๆ หรือป้วนปากด้วยน้ำเกลือ ซึ่งอาการป่วยนั้น ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนก็จะหายเองได้ภายใน 1 สัปดาห์ค่ะ แต่ถ้าภูมิคุ้มกันไม่ดี มีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ก็ต้องรักษาตามอาการของโรคแทรกซ้อนต่อไป

                   สำหรับการป้องกัน สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความสะอาดค่ะ หากเราหยิบจับสิ่งของที่เป็นของผู้อื่น ก่อนกินข้าวหรือหลังเข้าห้องน้ำ ควรล้างมือให้สะอาด เป็นไปได้ก็ควรล้างด้วยสบู่  เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีเชื้อโรค รวมถึงห้องเรียน ห้องน้ำ ของใช้ส่วนรวมก็ควรทำความสะอาดด้วยเช่นกัน นอกจากนี้สำหรับโรงเรียนหรือสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันอยู่เยอะๆ หากพบคนที่่ป่วยก็ควรแยกออกจากกลุ่ม เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่เข้าสู่คนอื่น และงดกิจกรรมที่ต้องร่วมกับคนอื่นด้วย และถ้าหากพบเกินจำนวนที่ทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ก็ควรปิดชั้นเรียนหรือปิดโรงเรียนไปเลย ซึ่งโควตาผู้ป่วยที่กระทรวงฯ กำหนด มีดังนี้

            - ถ้าพบนักเรียนในห้องเดียวกันมีคนป่วยเกิน 2 คน ต้องปิดห้องเรียนและทำความสะอาด
            - ถ้าพบนักเรียนในระดับชั้นเรียนเดียวกัน ป่วยเกิน 3 คน ต้องปิดการเรียนการสอนทั้งระดับชั้น
            - ถ้าพบนักเรียนป่วยกระจายตามระดับชั้นต่างๆ เกิน 5 คน ต้องปิดโรงเรียน

                  ซึ่งเบื้องต้นโรงเรียนทั่วประเทศก็ปิดไปหลายสิบโรงเรียนแล้วล่ะค่ะ ลองเช็ครายชื่อได้
>>คลิกที่นี่<< ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็กำลังตรวจสอบกันอย่างเต็มที่ว่ายังมีโรงเรียนที่มีผู้ป่วยอีกหรือไม่

เด็กดีดอทคอม :: "โรคมือ เท้า ปาก" โรคใหม่ ที่กำลังระบาดในเด็กไทย !!

   เกร็ดที่ต้องรู้!! เกี่ยวกับโรคมือเท้าปาก

            - เป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยทุกปี แต่คนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญ
            - ระยะฟักตัวตั้งแต่ได้รับเชื้อและเกิดอาการต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 4-6 วัน
            - ถึงแม้ว่าช่วงแพร่เชื้อที่กระจายได้มากที่สุด คือ สัปดาห์แรกของการป่วย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพอพ้นสัปดาห์แรกแล้วจะหายไป เพราะความจริงแล้วเชื้อยังสามารถกระจายได้อยู่จนกว่ารอยโรคจะหายไป หรือบางครั้งเชื้ออาจอยู่ในอุจจาระของผู้ป่วยได้เป็นเดือนๆ
            - รอยผื่นหรือจุดแดงของโรค ส่วนใหญ่มักพบที่หลังมือ/หลังเท้า ด้านข้างของนิ้วมือ/นิ้วเท้า มากกว่าที่จะขึ้นที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า
            - โรคที่มีอาการคล้ายโรคมือเท้าปาก ได้แก่ หัดเยอรมัน แผลร้อนใน-แผลติดเชื้อในช่องปาก และอีสุกอีใส
            - อาการแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก ได้แก่ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาเจียน ซึ่ม และชักเนื่องจากมีไข้สูง
           - ช่องทางที่เชื้อไวรัสจะแพร่เข้าสู่ร่างกายทางปากได้โดยตรง เช่น ช้อน แก้วน้ำ และการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากตุ่มใส แผลในช่องปาก หรืออุจจาระของผู้ป่วย
           - หากมีอาการเหล่านี้ พบแพทย์ด่วน!! ไข้สูง กินยาแล้วไม่หาย กระสับกระส่าย แผลในช่องปากเกิดขึ้นเยอะและไม่หาย เจ็บปาก ดื่มน้ำหรือกินข้าวไม่ได้
เด็กดีดอทคอม :: "โรคมือ เท้า ปาก" โรคใหม่ ที่กำลังระบาดในเด็กไทย !!

                วัยเด็กเป็นวัยที่ภูมิคุ้มกันยังไม่มากพอ และความระมัดระวังเรื่องสุขศึกษาก็ยังมีน้อย ดังนั้นหากชาว Dek-D.com มีน้อง หรือเด็กๆ ที่อายุต่ำกว่า 10 ปี ก็ควรดูแลและแนะนำน้องๆ หนูๆ ด้วยนะคะ สำหรับน้องๆ ที่กำลังอ่านบทความนี้ ถึงแม้จะไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง แต่ก็อย่าประมาทเชียวนะ เพราะสามารถเป็นได้เหมือนกัน

               สิ่งสำคัญที่สุด คือ เรื่องความสะอาดค่ะ "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" ยังเป็นคำแนะนำที่่ป้องกันได้ทุกโรค อย่าลืมปฏิบัติกันนะ เพื่อสุขภาพของตัวเองและยับยั้งการกระจายของโรคค่ะ :D
Cerdit by http://www.dek-d.com/content/education/29290/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-.php

มาแล้ว!! ระเบียบการสอบ กสพท.56 (อย่างเป็นทางการ)


 สวัสดีครับ ไชโย สิ้นสุดการรอคอยซักทีสำหรับน้องๆ ที่อยากเรียนคณะแพทยศาสตร์ หรือทันตแพทยศาสตร์ เพราะล่าสุดระเบียบการ กสพท.ปีการศึกษา 2556 ออกมาแล้วครับ โดยปีนี้ยังจัดเต็มเหมือนเดิม เปิดรับนักศึกษาในคณะแพทยศาสตร์ 12 สถาบัน และคณะทันตแพทยศาสตร์ 5 สถาบัน รวมทั้งสิ้น 1,421 ที่นั่ง รายละเอียดเป็นยังไง มาดูกันเลย
เด็กดีดอทคอม :: มาแล้ว!! ระเบียบการสอบ กสพท.56 (อย่างเป็นทางการ)

คณะที่เปิดรับ
           - คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รับ 20 คน
           - คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับ 200 คน
           - คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับ 55 คน
           - คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับ 65 คน
           - คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร รับ 30 คน
           - คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล รับ 156 คน
           - คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล รับ 250 คน
           - วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต รับ 40 คน
           - คณะแพทยศาสตร์ มศว รับ 180 คน
           - คณะแพทยศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ รับ 25 คน
           - คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ม.กรุงเทพมหานคร รับ 70 คน
           - วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฏเกล้า (ชาย) รับ 60 คน
           - วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฏเกล้า (หญิง) รับ 40 คน
           - คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับ 80 คน
           - คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.มหิดล รับ 80 คน
           - คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ รับ 25 คน
           - คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ รับ 20 คน
           - คณะทันตแพทยศาสตร์ มศว รับ 25 คน
เด็กดีดอทคอม :: มาแล้ว!! ระเบียบการสอบ กสพท.56 (อย่างเป็นทางการ)
ภาพบรรยากาศการแถลงข่าวการสมัครสอบ กสพท.ปีการศึกษา 2556

กำหนดการอย่างเป็นทางการ
           1 - 31 ส.ค. 55 - รับสมัครทาง Internet
           1 ส.ค.- 5 ก.ย.55 - ชำระเงินค่าสมัคร (จ่ายได้เฉพาะ ธ.ไทยพาณิชย์)
           10 พ.ย.55 - สอบวิชาเฉพาะแพทย์
           5 - 6 ม.ค.55 - สอบ 7 วิชาสามัญ (จัดสอบโดย สทศ.)
           19 ก.พ.55 - ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ และตรวจร่างกาย


เรื่องน่ารู้ กสพท.56 (จากการแถลงข่าว)
           - การสมัครสอบ กสพท.ปี 2556 จะมี 1 สิ่งที่แตกต่างจากการสมัครปีก่อนๆ คือ ผู้สมัครไม่ต้องส่งใบสมัคร และเอกสารประกอบการสมัครทางไปรณีย์ไปให้ทาง กสพท.เหมือนปีก่อนๆ ที่ผ่านมา แต่ปีนี้จะให้เก็บเอกสารแล้วนำมาให้กับทางคณะหลังการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์

           - สัดส่วนการสอบคัดเลือก กสพท.ปี 56 จะประกอบไปด้วย คะแนน 7 วิชาสามัญ (70%)+วิชาเฉพาะ (30%) ทั้งนี้ 7 วิชาสามัญทุกวิชาต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ส่วนโอเน็ตไม่นำมาเป็นองค์ประกอบ แต่ทุกวิชาก็ต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 (กรณีเด็กซิ่วที่มี O-NET ไม่ถึง 60% ทาง กสพท.จะพิจารณาจากอย่างอื่นแทน ติดตามข้อมูลในระเบียบการอีกที)

            - ศ.นพ.อาวุธ ศรีสุกรี เลขาธิการ กสพท.ยืนยันเด็กซิ่วจะไม่พิจารณาในส่วนคะแนน O-NET และส่วนเด็ก ม.6 สายศิลป์-ภาษา, ศิลป์-คำนวณ, กศน. ก็สามารถสอบ กสพท.ได้ โดยจะไม่มีการคัดออกระหว่างทาง และปีนี้ กสพท.ยังเข้าร่วมระบบเคลียริ่งเฮ้าส์

           - เลขาธิการ กสพท.เปิดเผยว่าในปีการศึกษา 2555 ที่ผ่านมามีเด็กนักเรียน ม.6 ที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ แต่ต้องถูกตัดสิทธิ์อดเรียน เพราะทำคะแนนโอเน็ตได้ไม่ถึงเกณฑ์ ถึง 21 คน ซึ่งได้รับการเยียวยาให้เรียนในคณะอื่นแทน

           - เว็บไซต์สมัครสอบ กสพท.คือ http://www9.si.mahidol.ac.th/

           - อ่านระเบียบการ กสพท.56 แบบเต็มๆ คลิกที่นี่

           พิเศษ!! สำหรับ น้องๆ ที่อยากฟังการการแถลงข่าวการสมัครสอบ กสพท.ปี 56 แบบเต็มๆ ไม่มีตัดต่อ กดดูที่คลิป VDO ด้านล่างนี้ได้เลยครับ พี่ลาเต้ จัดให้ๆ
          เอาล่ะครับ ได้รู้กำหนดการแล้ว เตรียมตัวให้พร้อม แบ่งเวลาให้ดีอย่าให้ กสพท.กับ GAT PAT ตีกันนะคร้าบบบ สู้ๆ และหารมีความคืบหน้า พี่ลาเต้ จะนำมาให้อัพเดทให้ทราบที่เด็กดีแห่งนี้เลยคร้าบบ
เด็กแอดมิชชั่น 56 สมัครรับข่าวแอดมิชชั่นผ่าน SMS ได้แล้ววันนี้ !!
เด็กดีดอทคอม :: มาแล้ว!! ระเบียบการสอบ กสพท.56 (อย่างเป็นทางการ)
       แจ้งน้องๆ ที่สมัครรับข่าวแอดฯผ่าน SMS ในเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ รอพบ SMS เด็ดๆ ดังนี้
                - อัพเดทไว!! ข่าวรับตรงปี 56 ของ 5 สถาบันดัง จุฬา มศว บางมด แม่ฟ้าฯ และมข. เด็กดีดอทคอม :: มาแล้ว!! ระเบียบการสอบ กสพท.56 (อย่างเป็นทางการ)
                - เกาะติดการสมัครสอบ GAT PAT 1/56 ของเด็ก ม.6 ทั้งประเทศ
                - ตามติดข่าววงใน ทุกเหตุการณ์เรื่องสอบตรง และแอดมิชชั่นที่เด็กรุ่น 56 ต้องรู้!!
                - รวมงานติวฟรีของทุกคณะ ทุกมหาวิทยาลัย ที่เด็ก ม.6 ไม่ควรพลาด 
เด็กดีดอทคอม :: มาแล้ว!! ระเบียบการสอบ กสพท.56 (อย่างเป็นทางการ)

                   (อยากรับข่าว SMS บ้าง มาอ่านวิธีสมัคร คลิกที่นี่ เลย)

                   ข่าวดี !! น้องที่ใช้เครือข่าย truemove H ก็สมัคร Dek-D'S SMS ได้แล้วจ้า

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

[มาดู]เมื่อเอา"สบู่"เข้าไมโครเวฟ..จะเกิดอะไรขึ้น!!?


เอา "สบู่" เข้าไมโครเวฟจะเกิดอะไรขึ้น ­­


มาทดลองกันหน่อยสิว่า ผลของการเอา "สบู่" เข้าไมโครเวฟ แล้วกดเวฟ ผลของมันจะเป็นเช่นไร 


เริ่มกันเลยดีกว่า 










เหมือนวิปครีมเลย ขาวนวล น่ากิน 














Credit by http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2535680

ที่จอดรถเทพ บ้านเราน่าจะมีแบบนี้บ้าง


รูป  ที่จอดรถเทพๆ แบบประหยัดเนื้อที่สําหรับคนที่ได้ชม MI4 คงจะเคยเห็น
ที่จอดรถแบบนี้มาแล้ว ซึ้งที่จอดรถแบบนี้มันไม่ได้มีอยู่ในหนังอย่างเดียว ของจริงก็
มีทั้งในจีน อินเดีย และอีกหลายประเทศมีที่จอดรถแบบนี้แล้ว ถ้าบ้านเรามีที่จอดรถแบบนี้บ้างคงจะดี ไม่ใช่น้อย นอกจากแก้ปัญหารถแออัด ที่จอดไม่พอได้แล้วบางทีถ้าเกิดนํ้าท่วม อาจจะเอารถมาแอบในนี้ได้ด้วย เจ๋งดีลองไปดูภาพกันเลยมีทั้งในจีน อินเดีย และอีกหลายประเทศมีที่จอดรถแบบนี้แล้ว ถ้าบ้านเรามีที่จอดรถแบบนี้บ้างคงจะดี ไม่ใช่น้อย นอกจากแก้ปัญหารถแออัด ที่จอดไม่พอได้แล้วบางทีถ้าเกิดนํ้าท่วม อาจจะเอารถมาแอบในนี้ได้ด้วย เจ๋งดีลองไปดูภาพกันเลย














วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

5 เมนูอันตรายที่สุดในโลกที่คุณอาจไม่รู้ !!


  มนุษย์ขึ้นชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทานอาหารได้หลากหลาย และช่างสรรหา
เมนูจากสัตว์ต่าง ๆ มาลองลิ้มชิมรสกันมากที่สุด ซึ่งถ้าหากมันปลอดภั

และมีรสชาติเอร็ดอร่อยก็ถือว่าเป็นโชคดีไปแต่เมนูบางชนิดนั้นไม่ได้
กินกันง่าย ๆ อย่างนั้นเพราะมันมีพิษสงร้ายแรงจนเรียกว่าควรที่จะเลี่ย
งมันดีกว่า แต่กระนั้น..คนเราก็ยังคงอยากจะเอาชนะพิษจากสัตว์เหล่านั้น 
ด้วยการสรรหาวิธีทำให้ปลอดภัย เพื่อจะทานมันจนได้

5 เมนูอันตรายที่สุดในโลกที่คุณอาจไม่รู้

     
                   1. ปลาปักเป้าหรือปลาฟุกุ เมนูท้าตายอันดับแรกนี้ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น เป็นเมนูที่เรียกว่า
ต้องผ่านการแล่เนื้อโดยเชฟที่มีความชำนาญโดยเฉพาะเท่านั้น จึงจะสามารถนำมารับประทานได้
เพราะตลอดทั้งลำตัวของปลาปักเป้านี้ จะมีสาร Tetrodotoxin ซึ่งมีพิษถึงตายกระจายอยู่ทั่ว
และที่สำคัญพิษนี้ยังไม่สลายตัวเมื่อถูกความร้อนด้วย ดังนั้นผู้ที่อยากจะลองเอาปลาปักเป้ามาปรุง
อาหารเองนั้นอย่าได้หวังจะมีชีวิตอยู่เพื่อลิ้มลองรสชาติของมันอีกครั้ง เพราะถ้าหากพลาดไปเพียง
นิดเดียว คุณก็จะเกิดอาการปวดแสบปวดร้อน คลื่นไส้อาเจียน หายใจติดขัด และมีแนวโน้มจะเสีย
ชีวิตหากไม่ได้รับการนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว




5 เมนูอันตรายที่สุดในโลกที่คุณอาจไม่รู้

  

            2. สมองลิง อย่าคิดว่าเมนูนี้ไม่มีอยู่จริงในโลก ตราบใดที่มนุษย์ยังมีนิสัยชอบลองของแปลก
อยู่เสมอ เมนูนี้พบได้ในแถบประเทศจีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย แต่มันเป็นเมนูที่เสี่ยงมาก ๆ ผู้ที่นำสมอง
ลิงมาปรุงอาหารต้องแน่ใจว่าลิงไม่ได้มีเชื้อวัวบ้าอยู่ ไม่อย่างนั้นผู้ที่ทานเข้าไปอาจจะติดเชื้อวัวบ้า
และเสียชีวิตในเวลาต่อมาได้อย่างง่ายดาย




5 เมนูอันตรายที่สุดในโลกที่คุณอาจไม่รู้

     

                    3. ชีสหนอน หรือ คาซู มาร์ซู เป็นชีสนมแกะสูตรดั้งเดิมของชาวเกาะซาร์ดิเนียในอิตาลี
ได้มาจากการนำชีสไปวางให้แมลงวัน Piophila casei มาไข่ใส่ จากนั้นก็หมักชีสด้วยตัวอ่อนของแมลง
ซึ่งจะทำให้ชีสมีเนื้อนุ่ม แต่การทานนั้นค่อนข้างเสี่ยง เพราะหนอนเหล่านี้เมื่อเข้าไปในลำไส้แล้วอาจทำ
ให้เกิดอาการเจ็บปวดในลำไส้ อาเจียนเป็นเลือด ท้องเสียเรื้อรัง และอาจช็อกถึงตายได้ ปัจจุบันชีสหนอน
ถูกจัดเป็นอาหารผิดกฎหมาย แต่ถูกยกเว้นในเกาะซาร์ดิเนีย เพราะถือว่าเป็นอาหารท้องถิ่นที่มีมานาน
หลายร้อยปี




5 เมนูอันตรายที่สุดในโลกที่คุณอาจไม่รู้

    

               4. ซันนักจิ หรือปลาหมึกสดราดซอส เป็นหมึกยักษ์สดตัวเล็กที่ชาวเกาหลีนิยมนำมาทาน
กันง่าย ๆ ด้วยการนำหมึกมาพันไม้ทั้งเป็น แล้วจิ้มน้ำจิ้มทานเลย แต่การเคี้ยวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
เพราะหมึกสดจะมีความเหนียวและยังดิ้นยั้วเยี้ยอยู่ เป็นเมนูที่อันตรายมากเคยเกิดเหตุการณ์หมึกติด
คอผู้ลิ้มลองจนขาดอากาศหายใจตายมาหลายคนแล้ว




5 เมนูอันตรายที่สุดในโลกที่คุณอาจไม่รู้


          5. นมโคที่ไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์ เพราะกระบวนการพาสเจอไรซ์นั้นเป็นกระบวนการฆ่าเชื้อ
ทำลายยีสต์รา และแบคทีเรียที่มีอยู่ในนมทั้งหมดออกไป โดยไม่ทำให้รสชาติของนมเสีย ดังนั้น การดื่ม
นมโคสด ๆ ที่ไม่ผ่านการพาสเจอไรซ์จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคจากวัวได้อย่างง่าย ๆ ซึ่งมันอาจไม่ทำ
ให้ผู้ดื่มถึงตาย แต่ก็เจ็บป่วยอย่างไม่คุ้มกันเลยล่ะ

     
         เห็นเมนูแต่ละเมนูแล้ว เชื่อเลยว่าหลายคนคงต้องรู้สึกสะอิดสะเอียนกันไม่น้อย โดยเฉพาะชีสนอน
ที่น่าขยะแขยง นึกภาพตามแล้วก็ขนลุกซู่อย่างบอกไม่ถูก ก็หวังว่าคุณ ๆ คงไม่เป็นคนหนึ่งที่อยากจะ
ท้ามัจจุราช ลิ้มลองเมนูอันตรายพวกนี้ด้วยตัวเองหรอกนะ.. อิอิ



5 เมนูอันตรายที่สุดในโลกที่คุณอาจไม่รู้

           จขกท. เคยดูสารคดีที่เขากินชีสหนอนอ่ะ แบบว่ามันน่า อี๊ มากๆเลยนะ แต่เห็นเขากินกันแบบน่าอร่อยมาก  เขาบอกว่ายิ่งมีหนอนไต่ยั้วเยี้ยเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี ว่างั้น...


Credit by : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2530109

10 ตำนาน แฮกเกอร์ของโลก !!!



ตำนานแฮกเอกร์ที่ทำให้องค์กรหลายองค์กรป่วย กันเป็นแถวๆ


Credit by http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2529707